จากสนามบินนครพนมมุ่งตรงสู่มุกดาหาร เราใช้เส้นทางผ่านอำเภอหว้านใหญ่ แวะชมสักการะสถานพระมารดาแห่งมรณสักชีวัดสองคอน โบสถ์คริสต์ในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาค แล้วไปชมศิลปะล้านช้างที่งดงามในวัดมโนภิรมย์ ผ่านจุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2 ก่อนตรงดิ่งเข้าสู่ตัวเมือง หลังจากเช็กอินที่พักให้เรียบร้อย เราก็พร้อมทัวร์เมืองงามริมโขงแห่งนี้กัน...

 

          หอแก้วมุกดาหาร อยู่ห่างจากตัวเมือง 2 กม. ตามเส้นทางมุกดาหาร-อ.ตอนตาล เป็นแลนด์มาร์กประจำเมืองที่สูงถึง 65.50 เมตร เราจึงได้เห็นภาพมุกดาหารทั้งเมือง โดยชั้นที่หนึ่งเป็นหอนิทรรศการจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในวิถีชีวิตชาว มุกดาหาร ชั้น 2 ชมพิพิธภัณฑ์เล่าถึงการสร้างเมือง วัตถุโบราณภาพถ่ายเก่า และเครื่องแต่งกายของของชาวไทย 8 เผ่า ที่หลอมรวมเป็นชาวมุกดาหาร เช่น ภูไท ไทยกะโซ่ ไทยย้อ ไทยกะเลิง ฯลฯ ชั้น 6 ชมทัศนียภาพของเมืองแบบ 360 องศา มองเห็นถึงแขวงสะหวันนะเขตของลาว พร้อมมีกล้องส่องทางไกลไว้บริการ และชั้น 7 ประดิษฐานพระพุทธนวมิ่งมงคลมุกดาหาร และพระประจำวันเกิดให้ผู้คนได้มาสักการะ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. 

 

          ภูมโนรมย์ เลยจากหอแก้วมุกดาหารไป 3 กม. ด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์มีรอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุภูมโนรมย์ทรง 8 เหลี่ยม และพระพุทธรูปอังคารเพ็ญที่เก่าแก่ ที่นี่เป็นอีกจุดชมวิวเมืองที่ไม่น่าพลาดโดยเฉพาะยามเย็นจะมองเห็นสะพานข้าม มิตรภาพไทย-ลาว หอแก้วมุกดาหาร และสายน้ำโขงในอีกมุมมองหนึ่ง

 

          วัดศรีบุญเรือง วัดศรีมงคลใต้ และ วัดศรีมงคลเหนือ สามวัดในเมืองที่มีสำคัญต่อชาวมุกดาหาร โดยเฉพาะวัดแรกนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์สอง พระคู่บ้านคู่เมืองที่เจ้าจันทกินรีเจ้าเมืองคนแรกได้อัญเชิญมาจาก เวียงจันทน์ ส่วนวัดศรีมงคลใต้เป็นวัดเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พระเจ้าองค์หลวงที่เป็นที่นับถือทั้งชาวไทยและชาวลาว